ฝุ่นPM2.5 ภาคเหนือ ในภาพรวมดีขึ้น เหลือเกินมาตรฐาน 3 สถานี (24 เม.ย. 63)

มติชนออนไลน์ 24 เมษายน 2563
ฝุ่นPM2.5 ภาคเหนือ ในภาพรวมดีขึ้น เหลือเกินมาตรฐาน 3 สถานี


แฟ้มภาพ

ฝุ่นPM2.5 ภาคเหนือ ในภาพรวมดีขึ้น เหลือเกินมาตรฐาน 3 สถานี

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 24 เมษายน  กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 26 สถานี ตรวจพบค่าระหว่าง 19-69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก.ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) มี 3 สถานี ได้แก่ บริเวณต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวว่า คุณภาพอากาศภาคเหนือในภาพรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณภาพอากาศโดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี (สีเขียว) ทั้งนี้ พบพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (สีส้ม) มาเพียงเล็กน้อย 3 สถานี ได้แก่ อ.แม่สาย เชียงราย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน โดยปริมาณฝุ่นละอองพีเอ็ม2.5 ลดลงเกือบทุกพื้นที่ มีบางพื้นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และไม่พบปริมาณฝุ่นละอองในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 อย่างไรก็ตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า บริเวณภาคเหนือเกิดพายุฤดูร้อน ทำให้มีฝนตกในหลายพื้นที่ ประกอบกับการดำเนินงานและมาตรการแก้ไขปัญหาที่เข้มงวด ทำให้สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายประลอง กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ปัญหาหมอกควันข้ามแดนในอนุภูมิภาคแม่โขง  จำนวนจุดความร้อนลดลงเกือบทุกพื้นที่ ส่งผลให้คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษ ยังคงติดตามสถานการณ์ และเน้นยำประเทศเพื่อนบ้านในการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาหอมกควันข้ามแดนอย่างเคร่งครัด

อธิบดีคพ.ระบุว่า สำหรับการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือน ให้ประชาชนที่อยู่ใน กลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้ร้บผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ