เน่าซ้ำซาก! วอนหน่วยงานรับผิดชอบแก้น้ำเสียคลองบางเทา ส่งกลิ่นเหม็น หวั่นกระทบท่องเที่ยว (11 พ.ค. 62)

MGR Online 11 พฤษภาคม 2562
เน่าซ้ำซาก! วอนหน่วยงานรับผิดชอบแก้น้ำเสียคลองบางเทา ส่งกลิ่นเหม็น หวั่นกระทบท่องเที่ยว 

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - วอนหน่วยงานรับผิดชอบแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองบางเทา จ.ภูเก็ต ส่งกลิ่นเหม็นเป็นเวลายาวนาน ขาดหน่วยงานรับผิดชอบแก้ไข ปล่อยไว้กระทบท่องเที่ยว 

จากกรณีมีผู้เผยแพร่ภาพและข้อความ เกี่ยวกับน้ำเสียภายในคลองบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า มีสีดำและส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้สื่อข่าว วันนี้ (11 พ.ค.) พบว่า ภายในลำคลองดังกล่าวสภาพน้ำมีสีดำคล้ำและส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่บริเวณชายหาด จนถึงสะพานข้ามระยะทางประมาณ 120 เมตร

สอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวทราบว่า น้ำในบริเวณนี้มีสีดำและส่งกลิ่นเหม็นมากซึ่งเป็นลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้จะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาถาวร มีเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนของระบบบำบัดที่มีอยู่ก็ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ 

โดย นายเกชา เกราะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลางจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน ชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และชาวบ้านที่อยู่ริมคลองว่ามีน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก และเป็นลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ด้วย เนื่องจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และการทำมาหากินของพี่น้องในชุมชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านการบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน

ปัญหาที่เกิดขึ้นในคลองแห่งนี้ทางกลุ่มพี่น้องประมงพื้นบ้านและกลุ่มเรือหางยาวได้มีการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 2556 จนปัจจุบันปัญหาก็ยังเหมือนเดิม ทราบว่าทางผู้ว่าฯ ภูเก็ตมีดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาในบริเวณนี้อย่างจริงจัง และทางชุมชนก็รอความหวังอยู่

ด้าน นายวิสิทธิ์ จำปาดะ ผู้ประกอบการเรือหางยาวบางเทา กล่าวว่า ปัญหาน้ำเป็นมานานแล้ว สิ่งแวดล้อมไม่ดีเป็นอย่างมาก แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านมาบริเวณนี้ต่างบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีเลย หรือ No Good และบางส่วนก็ไม่ยอมที่จะมาลงเล่นน้ำทะเลที่บริเวณปากคลอง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงแรมที่พักซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะโทษว่าเกิดจากชาวบ้าน

ปัญหานี้เป็นมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ก็ได้มีการร้องเรียนมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะลงมาตรวจสอบและจากนั้นก็หายไปไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงอยากให้มีการแก้ปัญหาอย่างถาวร เพราะบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก